เทียวเยอรมัน ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยุโรป ทั้งความจริงที่ว่าส่วนใหญ่ของเมืองเป็นระเบียบ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติมากมาย นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่ออย่างเบียร์ ไส้กรอก และขาหมูทอดอีกด้วย ในบางเมืองก็จะมีอาหารท้องถิ่นที่มีกลิ่นอายของสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียมาให้ได้ลองอีกด้วย บอกได้คำเดียวว่าไม่ว่าจะเที่ยวหรือกินก็ครอบคลุมทุกอย่าง รวมถึงการเดินทางก็ทำได้ง่ายเช่นกัน
ปราสาทนอยชวานชไตน์ มิวนิค (Neuschwanstein Castle) เทียวเยอรมัน
ปราสาทนอยชวานชไตน์ มิวนิค ปราสาทแห่งนี้ดูเหมือนหลุดมาจากเรื่องราวของเจ้าหญิงและเจ้าชายโดยตรง ตั้งอยู่ในภูมิภาคบาวาเรียของมิวนิก สถาปัตยกรรมเรียกได้ว่าทั้งสวยงามตระการตาและใหญ่โตมโหฬาร โดยเฉพาะการตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้แห่งเทือกเขาแอลป์ ทำให้มันสวยงามเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ อีกทั้งยังมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เรียกได้ว่าไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ประทับใจต้องนำกลับบ้านอย่างแน่นอน เทียวเยอรมัน
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle)
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ปราสาทอายุ 700 ปีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในไฮเดลเบิร์ก ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่หากมาเมืองนี้จะไม่สามารถมาที่นี่ได้ เพราะนอกจากจะโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างยุคเรอเนซองส์และโกธิกได้อย่างลงตัวแล้ว ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถชมวิวเมืองสุดโรแมนติกได้แบบเต็มตาอีกด้วย พร้อมชมวิวริมแม่น้ำเนคคาร์ไปพร้อมๆ กัน
เกาะรือเกิน (Rugen)
เกาะรือเกิน นี่คือเกาะที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลบอลติก ภายในรัฐเมคเลนบวร์ก-ฟอร์พอมเมิร์น ไม่ใช่แค่เดินเล่นชิลๆ ไปตามหาดทรายสวย ทะเลสวย และท้องฟ้าสีครามเท่านั้น เนื่องจากเกาะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ Jasmund ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเกาะมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาหินปูนหรือหินชอล์ก เดินชมยอดไม้ท่ามกลางป่าบีชบนเส้นทางยาว 1,250 เมตร ยังสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามที่จุดชมวิวหน้าผาเก้าอี้กษัตริย์ซึ่งว่ากันว่าสวยงามมากคุ้มค่าแก่การเดินทาง
พระราชวังนิมเฟนบูร์ก (Nymphenburg Palace)
พระราชวังนิมเฟนบูร์ก พระราชวังสไตล์บาโรก ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย สง่างาม และรูปลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น ผู้ที่รักงานศิลปะก็สามารถชมงานศิลปะบนเพดานได้เช่นกัน รวมถึงภาพวาดต่างๆ มากมายที่จัดแสดงให้ชม
อาคารไรชส์ทาค (Reichstag building)
อาคารไรชส์ทาค หรือที่หลายๆ คนจะได้ยินเรียกว่าอาคารรัฐสภาเยอรมัน ตั้งอยู่ในเมืองเบอร์ลิน อาคารหลังนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์เยอรมัน เนื่องจากเคยใช้เป็นศูนย์กลางการบังคับบัญชาและการปฏิบัติการเมื่อฮิตเลอร์อยู่ในอำนาจ ภายในจะมีสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุของสมาชิกรัฐสภาและข้อความเก่า ๆ บนผนัง นั่นจะทำให้เรามองลึกลงไปถึงสงครามในช่วงเวลานั้น ห้องทำงานเปิดให้ชมแล้ว ห้องประชุมต่างๆ ในด้านสถาปัตยกรรมก็ให้ความรู้สึกเป็นทางการอย่างมีสไตล์ นีโอเรอเนซองส์ และหากต้องการชมทิวทัศน์ที่สวยงามของกรุงเบอร์ลินก็สามารถปีนขึ้นไปบนยอดโดมเพื่อชมทิวทัศน์ได้อย่างง่ายดาย
ประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg Gate)
ประตูบรันเดนบูร์ก ประตูแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญยอดนิยมในใจกลางกรุงเบอร์ลิน ประตูนี้สร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพเป็นหลัก ในยุคหลังสงคราม ที่นี่ยังคงเป็นสถานที่แห่งสันติภาพในยุโรป แม้ว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จะถูกทำลายไปในหลายส่วน หากต่อมาได้รับการบูรณะให้สวยงามดังเดิม
อาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral)
อาสนวิหารโคโลญ อาสนวิหารอันโด่งดังของนิกายโรมันคาทอลิกในเมืองโคโลญจน์ที่อาจใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก เนื่องจากเริ่มก่อสร้างในปี 1248 แต่จริงๆ แล้วแล้วเสร็จในปี 1880 โดยรวมแล้วเป็นเวลากว่า 600 ปีแล้ว ในด้านรูปแบบสถาปัตยกรรมมีความโดดเด่นในสไตล์โกธิค สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่คือตึกแฝดที่มีความสูง 157.38 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร ราวกับสามารถเห็นตระหง่านมาแต่ไกล สถานที่แห่งนี้ยังรวมเอาสิ่งดีดีอีกมากมายที่ไม่ใช่แค่การสร้างสรรค์ที่คงอยู่จนติดอยู่ในโลกเพียงลำพัง แต่ยังคงอันดับที่ 4 ในบรรดามหาวิหารที่สูงที่สุดในสถาปัตยกรรมโกธิก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
อีสท์ไซด์แกลลอรี (East Side Gallery)
อีสท์ไซด์แกลลอรี ตั้งอยู่บนMühlenstrasse เมืองเบอร์ลิน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ในการจัดแสดงงานศิลปะที่ไม่ธรรมดาแต่เจ๋งสุดๆ และยังเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยให้ศิลปินหลากหลายวาดภาพบนฝั่งตะวันออกของกำแพงเบอร์ลินเรียงรายไปด้วยภาพกว่า 106 ภาพ ความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้กำจัดเฉพาะศิลปินชาวเยอรมันเท่านั้น หากจะรวบรวมศิลปินชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่เดียว นอกจากนี้ยังเป็นอนุสรณ์สถานระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งเพื่อเสรีภาพของชาวเยอรมัน
เคลสไตน์เฮาส์ (Kehlsteinhaus)
เคลสไตน์เฮาส์ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่ารังนกอินทรี ตั้งอยู่บนยอดเขาเคลสไตน์ ใกล้กับเมืองเบิร์ชเทสกาเดน ภายในรัฐบาวาเรีย ประวัติศาสตร์ที่นี่ไม่ธรรมดาเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงไม่มีโอกาสได้เข้าไป เพราะในอดีตเคยเป็นบ้านพักตากอากาศและศูนย์บัญชาการของฮิตเลอร์ รูปแบบการก่อสร้างอาจจะไม่ว้าวเท่าไรนัก แต่จุดสูงสุดคือตำแหน่งที่ทั้งสูงและสวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ขุนเขาอันงดงามที่สุด ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่สมบูรณ์แบบ ในที่สุดก็ได้กลายมาเป็นจุดแวะพักสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนเมืองนี้ในที่สุด
พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger Palace)
พระราชวังซวิงเงอร์ ตั้งอยู่ในเมืองเดรสเดน จะเป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก เดิมเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าออกุสตุสที่ 2 แห่งโปแลนด์เสด็จเยือนพระราชวังแวร์ซายส์และรู้สึกประทับใจ กลับมาจึงทำให้วังแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้น ภายนอกดูคลาสสิก แต่ภายในมีมากกว่าความสวยงาม เนื่องจากได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์จึงเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานศิลปะกว่า 2,000 ชิ้นที่ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์จากราชวงศ์แซกโซนีอีกด้วย เทียวเยอรมัน